ครูที่ออกมาแฉ ครูทำร้ายเด็ก ผอ.เอาเงินบริจาคไปเที่ยว โดนสั่งย้ายแล้ว

35

จากกรณี นางสาวเพชรรัตน์ หรือ ครูเพชร ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่ออกมาแฉเรื่องของการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน และการใช้เงินของโรงเรียนในทางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งวันนี้หลังจากที่เข้าร้องต่อ ปปช.ภาค 5 แล้ว

ตอนแรกจะไปร้องที่ ปปท.เชียงใหม่ต่อ แต่ก็ได้ยกเลิกไปเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการร้องที่ซ้ำซ้อนกับระหว่าง 2 หน่วยงาน ทั้งนี้ในส่วนของคู่กรณีก็ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงดาวแล้ว รวมทั้งเด็กและผู้ปกครองก็ได้เข้าให้ปากคำเช่นกัน

ล่าสุด ในส่วนเรื่องของการทำงาน ครูเพชร ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางนายเรืองยศ ปันศิริ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ได้มีหนังสือคำสั่งออกมาให้ตนเอง ให้มาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงจนแล้วเสร็จ

ซึ่งอาจจะเปิดช่องให้ตนเองสามารถย้ายออกจากพื้นที่ได้ ซึ่งในส่วนตัวแล้วมองว่าเหมือนกับตนเองถูกลงโทษให้ถูกย้ายออกจากพื้นที่ฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นผู้ออกมาเปิดเผยเรื่องของการกระทำผิด แต่ฝั่งคู่กรณีกลับยังได้ทำงานในที่เดิมเหมือนปกติไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น

ทั้งๆ ที่ตามความเป็นธรรมแล้วก็ควรที่จะต้องย้ายคู่กรณีออกจากพื้นที่ด้วย จนกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนแล้วเสร็จ จึงมองว่าการย้ายครั้งนี้ดูจะไม่เป็นธรรมกับตนเอง

ในขณะที่ นายเรืองยศ ปันศิริ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ออกหนังสือคำสั่งให้ นางสาวเพชรรัตน์ หรือ “ครูเพชร” ได้มาช่วยราชการที่สำนักงานเขต 3 จริง แต่ให้มาช่วยราชการไม่ได้เป็นคำสั่งย้ายหรือเป็นบทลงโทษ แต่เป็นการช่วยเหลือให้เกิดความปลอดภัยกับครูเพชร

เนื่องด้วยคู่กรณีมีการใช้ความรุนแรงเกรงจะเกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นได้ในพื้นที่ แต่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือครูเพชร ต้องการที่จะย้ายไปทำงานในพื้นที่อื่นด้วยเหตุผลเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

โดยในส่วนที่มีความผิดชัดเจนแล้วคือครูอัตราจ้างที่ก่อเหตุทำร้ายนักเรียนนั้น เป็นครูที่จ้างด้วยงบประมาณของโรงเรียน เป็นเงินของโรงเรียน แต่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ก็มีอำนาจสั่งการให้ทางโรงเรียนได้เลิกจ้างแล้วในขณะนี้ รอเอกสารเลิกจ้างอย่างเป็นทางการจากโรงเรียนมา

เนื่องจากมีความผิดร้ายแรงที่ชัดเจน ส่วนการดำเนินคดีหากเด็กนักเรียนและผู้ปกครองแจ้งความก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย ส่วน ผอ. และรอง ผอ. ที่ถูกร้องด้วยก็ต้องให้ความเป็นธรรมซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสอบสวนเรื่องนี้แล้ว หากผลการสอบสวนเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากันไปตามความถูกต้องและตามขั้นตอน