โอ คอนเนอร์ เป็นนักร้องที่โด่งดังไปทั่วโลกจากชิงเกิลเพลง Nothing Compares 2 U ซึ่งเผยแพร่ในปี 2553 ซึ่งขึ้นชาร์จอันดับ 1 ในหลายประเทศทั่วโลก
เป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้าของวงการเพลงเลยทีเดียว สำหรับ ซีเนด โอ คอนเนอร์ นักร้องและนักเคลื่อนไหวชาวไอริชเสียชีวิตแล้วขณะมีอายุ 56 ปี โดยครอบครัวของเธอประกาศข่าวดังกล่าวด้วยความโศกเศร้าอย่างยิ่ง แต่ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของการเสียชีวิตต่อสาธารณะแต่อย่างใด
โอ คอนเนอร์ เป็นนักร้องที่โด่งดังไปทั่วโลกจากชิงเกิลเพลง Nothing Compares 2 U ซึ่งเผยแพร่ในปี 2553 ซึ่งขึ้นชาร์จอันดับ 1 ในหลายประเทศทั่วโลก และทำให้เธอได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแห่งปีจากนิตยสาร Rolling Stone และคว้ารางวัล Brit Award ในฐานะศิลปินเดี่ยวหญิงระดับโลก
โอ คอนเนอร์ออกอัลบั้มทั้งหมด 10 ชุด ในช่วงปี 2530-2557 โดยอัลบั้มสุดท้ายของเธอคือ Im Not Bossy, Im The Boss แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เป็นที่จดจำที่สุดในอาชีพของเธอเกิดขึ้นเมื่อเธอฉีกพระรูปของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ในรายการโทรทัศน์ Saturday Night Live ของสหรัฐ
ซึ่งเธอบอกว่าไม่เคยเสียใจที่ทำอย่างนั้น เพราะเธอต้องการต่อสู้กับการล่วงละเมิดต่อเด็กในโบสถคาทอลิก
อย่างไรก็ดี โอ คอนเนอร์มีชีวิตวัยเด็กที่ยากลำบาก เธอเกิดใน Glenageary ดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ เมื่อเดือนธันวาคม 2509 พ่อแม่ของเธอหย่าร้างเมื่อเธอมีอายุ 8 ขวบ ต่อมาแม่ของเธอที่โอ คอนเนอร์ ระบุว่า
เคยทำร้ายเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี 2528 เมื่อยังเป็นวัยรุ่นเธอถูกจับในข้อหาขโมย และถูกส่งตัวไปยัง Magdalene Asylum สถานที่ซึ่งเธอบอกว่าไม่ต่างจากคุก ซึ่งเด็กผู้หญิงต่างพากันร้องไห้ทุกๆ วัน ต่อมาในปี 2561 โอ คอนเนอร์ ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม
และเปลี่ยนชื่อเป็น Shuhada Sadaqat ในเดือนมกราคม 2565 เธอสูญเสียเชน บุตรชายวัย 17 ปี ผู้เป็นที่รักยิ่งของเธอที่ถูกพบว่าเสียชีวิตหลังหายตัวไปได้ 2 วัน ซึ่งทำให้โอ คอนเนอร์ ประกาศยกเลิกการแสดงทั้งหมดในช่วงที่เหลือของปี เพราะเธอยังคงโศกเศร้าหลังการเสียชีวิตของบุตรชาย ผู้ซึ่งเธอระบุว่า
เป็นความรักในชีวิต ประทีปแห่งจิตวิญญาน และเราเป็นวิญญานเดียวกันที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ไมเคิล ดี อิกกินส์ ประธานาธิบดีไอแลนด์ ยกย่อความเป็นตัวตนที่แท้จริงของโอ คอนเนอร์ เช่นเดียวกับเสียงที่ไพเราะและเป็นเอกลักษณ์ของเธอ สิ่งที่ไอร์แลนด์สูญเสียไปคือนักแต่งเพลงที่มีอายุน้อยและมีพรสวรรค์ที่สุดของเราในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
