เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2564 พ.ต.ต.พงศ์ภัค สิริพัฒนพงศ์ สว.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น นำกำลัง ชุดปฏิบัติการสืบสวนและวิเคราะห์อาชญากรรม กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ชุดเสือดาวพิฆาต เข้าควบคุมตัวนายกรกช หรือ เอ็ดดี้ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
ไปค้นหาของกลางเพิ่มเติมภายในบ้านไม่มีเลขที่ ในพื้นที่บ้านโนนม่วง หมู่ 12 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังถูกรวบตัวได้ เนื่องจากใช้สลิปโอนเงินปลอม ซื้อรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตู รุ่นแร็ปเตอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กก 3132 อุบลราชธานี จากเต็นท์รถยนต์มือ 2 ในจ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2564 โดยอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณภายในห้างแห่งหนึ่ง ริมถนนมิตรภาพ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น
ภาพจาก ข่าวสด
แต่ภายหลังจากที่ทางเต็นท์รถยนต์ นำรถยนต์ที่ตกลงซื้อขาย ขึ้นรถบรรทุกสไลด์มาส่งที่ลานจอดรถของห้าง นายกรกชผู้ต้องหา กลับวางอุบายหลอกลวงคนขับรถบรรทุกสไลด์ ก่อนจะขับรถกระบะฟอร์ด หลบหนีไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแกะรอยจนพบที่ซุกซ่อนรถยนต์กระบะ และติดตามจับกุมตัวนายกรกชผู้ก่อเหตุได้
ภาพจาก ข่าวสด
พ.ต.ต.พงศ์ภัค เปิดเผยว่า นายกรกช ใช้มือถือโทรติดต่อและอ้างตัวว่าเป็น เฮียตง เจ้าของร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณภายในห้างแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น ก่อนจะสั่งซื้อรถจากเต็นท์ หลังตกลงซื้อขายกันเสร็จได้ทำการโอนหลักฐานการซื้อขายเป็นสลิปเงินที่ทำการโอน จำนวน 1,170,000บาท ซึ่งทางเต็นท์รถยนต์ไม่ได้ตรวจสอบ ต่อมาได้นัดหมายให้คนขายนำมาส่งที่บริเวณลานจอดรถด้านหลังห้าง จากนั้นนายกรกช ได้ขี่รถจยย.ไปจอดไว้ที่ลานจอดรถระหว่างโรงพยาบาลศรีนครินทร์และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนที่จะโดยสารรถแท็กซี่จากจุดดังกล่าวไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นได้เดินไปยังห้างดังกล่าว จนกระทั่งพบว่า รถยนต์สไลด์ได้บรรทุกรถกระบะฟอร์ดมาถึงปากทางเข้าห้างเพื่อไปที่ลานจอด
นายกรกชจึงรีบเดินตามเข้าไป เมื่อไปถึงลานจอดรถด้านหลังห้าง นายกรกชได้ทำทีไปบอกกับ คนขับรถสไลด์ว่าตนเป็นลูกน้องของคนที่ซื้อรถคันดังกล่าว และแจ้งให้คนขับ เข้าไปพบคนที่มาซื้อรถด้านในห้างก่อน เมื่อคนขับรถหลงเชื่อเดินเข้าไปในห้างนายกรกชได้อาศัยจังหวะดังกล่าวรีบขับรถกระบะคันดังกล่าวหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไป
จากการสอบสวน นายกรกช ผู้ ต้อง หา ให้การอีกว่าได้ขับรถกระบะคันดังกล่าว ไปจอดซุกซ่อนไว้ที่ลานจอดรถตรงจุดที่ตนได้จอดรถจยย.ไว้ก่อนหน้านี้ และเก็บกุญแจรถยนต์กระบะไว้ที่ตัว จากนั้นได้ขับขี่รถจยย.นำโทรศัพท์มือถือเครื่องที่ใช้ก่อเหตุไปโยนทิ้งที่บึงศรีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้วขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ต่อมาวันรุ่งขึ้นได้ทราบข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปพบรถกระบะคันดังที่จอดซุกซ่อนไว้แล้ว จึงขี่รถจยย.นำกุญแจรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปโยนทิ้งที่ภายในป่า ริมถนนสาธารณะ ติดกับสถานีตำรวจภูธรย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังจากทิ้งกุญแจรถกระบะแล้วได้ขับรถกลับมาที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายกรกชพร้อมของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ. เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณ ข่าวสด
