สธ.แถลงเตือนภัยระดับ 3 โอมิครอน หลังปีใหม่อาจติดวันละ 3 หมื่นคน

256
สธ.แถลงเตือนภัยระดับ 3 โอมิครอน หลังปีใหม่อาจติดวันละ 3 หมื่นคน

สธ.แถลงเตือนภัยระดับ 3 โอมิครอน วันนี้ (27 ธันวาคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

แถลงข่าวสถานการณ์ ฉากทัศน์การแพร่ และการปฏิบัติตัวของประชาชน ถึงสถานการณ์การแพร่ ของสายพันธุ์โอไมครอน ว่าตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมเป็นต้นมา ประเทศไทยสามารถคัดกรองผู้เข้าประเทศ

ทั้งนี้ คิดเป็นโอไมครอนสะสม 514 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในการควบคุม มีบางส่วนที่เล็ดลอดและไปเยี่ยมญาติ อาจทำให้เกิดการแพร่ก่อนหน้านี้ แต่ต้นเชื้อมีประมาณ 500 กว่าราย

ส่วนอาการของผู้ติดประมาณ 90% เป็นอาการน้อยหรือไม่มีอาการ อาการเล็กน้อยอยู่ประมาณ 10% และอาการมาก 3-4% อย่างไรก็ตาม ที่ประเทศอังกฤษมีการศึกษาและรายงานว่า ความรุนแรงของโอไมครอนเมื่อเทียบกับเดลตาจะน้อยกว่า

  1. ฉากทัศน์แรก (Least Favourable) พบการระแพร่ และรับวัคซีนใกล้เคียงในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ประชาชนส่วนใหญ่ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติตาม UP (Universal Prevention) คาดการณ์ Worst Case Scenario มีผู้ติดตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2565 จำนวน 30,000 คนต่อวัน
  2. ฉากทัศน์ที่ 2 (Possible) โอกาสติดเพิ่มสูงช่วงปีใหม่ วัคซีนใกล้เคียงช่วงเดือนธันวาคม 2564 ขณะที่ทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติตามมาตรการ VUCA (Vaccine Universal Prevention cv Free Setting ATK) อย่างเคร่งครัด คาดการณ์จำนวนผู้ติดช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2565 มากกว่า 15,000 คนต่อวัน
  3. ฉากทัศน์ที่ 3 (Most Favourable) คือแบบดีที่สุด ผลจากโอกาสติดเพิ่มปานกลาง เร่งวัคซีนให้เร็วขึ้นในทุกกลุ่ม และทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการ

ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า ตามที่ท่านปลัดฯ แจ้งให้ทราบว่า สธ.ประเมินสถานการณ์และประกาศแจ้งการเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็นระดับ 3 จากทั้งหมด 5 ระดับ เพื่อป้องกัน ตรวจจับการระบาด ควบคุมและสถานการณ์

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือของประชาชน ฉะนั้น หากมีการแจ้งเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็นระดับ 3 สิ่งที่ต้องเน้นย้ำและขอความร่วมมือ คือ

1.ปฏิบัติตามมาตรการcv free settings อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสถานที่เสี่ยงระบบปิด เช่น ร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศ ที่แออัด พนักงานจะต้องรับวัคซีนให้ครบถ้วน รวมถึงสุ่มตรวจ ATK เป็นระยะ และคัดกรองลูกค้า เว้นระยะห่าง ซึ่งที่มาผ่านพบว่าดำเนินการได้ดี

แต่ยังพบหลายร้านย่อหย่อนไปบ้าง เช่น ไม่ได้ตรวจสอบการวัคซีนกับพนักงานใหม่ ซึ่งหากมีความแออัด จะต้องใช้ระบบจองคิว แนะนำลูกค้าปฏิบัติตามมาตราการ ทำความเข้าใจกับลูกค้า

2.ความสามารถรองรับผู้ติด เตียงเขียว เหลือง แดง ซึ่งจะเน้นย้ำในผู้ติดหนัก นอกจากนั้น ยังดูการรับวัคซีนครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง คู่กับการแพร่ในคลัสเตอร์ว่าควบคุมได้อย่างในระดับพื้นที่

สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้พบว่าคนไทยเดินทางไปค่อนข้างเยอะ แต่อย่างที่ทราบคือประเทศเราปลอดภัยกว่าค่อนข้างเยอะ เช่นหลายคนไปยุโรปก็เดินทางเอาเชื้อกลับมาฝาก ดังนั้น เมื่อเดินทางกลับมาไทยแล้วก็ขอให้พึงระลึกเสมอว่าแม้ตรวจ RT-PCR ไม่พบติด

แต่ในสัปดาห์แรกที่เราพบตัวอย่างในคลัสเตอร์หลายจังหวัด เช่น กาฬสินธุ์ ขอให้กลับมาเพื่อสังเกตอาการ อย่าเพิ่งไปทำกิจกรรมที่พบคนเยอะ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารร่วมกัน ในระบบปิด ซึ่งเป็นการสร้างความเสี่ยงให้กับตัวท่าน ชุมชนและจังหวัด

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังปีใหม่อาจมีการแพร่มากขึ้น โดยเฉพาะโอมิครอนที่ติดง่าย ดังนั้น ขอให้ท่านปฏิบัติมาตรการทำงานจากที่บ้าน(Work From Home) อย่างต่อเนื่อง