วันนี้ (29 ธ.ค. 64) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในการแถลงข่าว อัพเดทสายพันธุ์โอมิครอน โดยระบุว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าโอมิครอนน่าจะแพร่เร็ว แต่ความรุนแรงอาจจะไม่มากนัก ต้องเป็นเรื่องที่ติดตามสถานการณ์
ขณะนี้ มีข้อมูลรายงานอย่าน้อย 108 ประเทศ และในสหรัฐอเมริกาพบว่าตรวจพบโอมิครอนทุกรัฐ และการติดทะยานไป 2 แสนราย ขณะที่สายพันธุ์แพร่กระจายหลักทั่วโลกยังเป็น BA.1 ราว 4 หมื่นกว่าราย ยังเป็น BA.1 ส่วนที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อยมีเล็กน้อย BA.2 ราว 45 ราย และ BA.3 มี 14 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทยตั้งแต่ 1 พ.ย. ตั้งแต่เปิดให้มีคนเดินทางเข้าประเทศ มีการตรวจสายพันธุ์มาตลอด ตรวจไปราว 8,000 ตัวอย่าง วันนี้พบโอมิครอนสะสมตั้งแต่รายแรกที่พบในประเทศไทย 740 ราย
เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 489 ราย และ ติดเชื้อในประเทศ 251 รายเทียบกับภาพรวมราว 8-9% โดยพบในเกือบทุกเขต ยกเว้นเขตสุขภาพที่ 2 ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สุโขทัย ตาก
เขตที่พบมากที่สุด คือ กทม. เขต 13 เพราะตรวจในคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และคนเหล่านี้มักจะลงเครื่องที่สุวรรณภูมิ ถูกกักตัว หรือรอผล Test Go รองลงมา คือ เขตสุขภาพที่ 7 แถวขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ที่ทราบว่ามีคลัสเตอร์ใหญ่เกิดขึ้น อีกเขตที่เริ่มพบคือ เขต 11 ภาคใต้ ฝั่งอันดามัน ภูเก็ต สมุย
ขณะนี้ มี 33 จังหวัด ตรวจพบโอมิครอนอย่างน้อย 1 ราย มีในทุกเขตสุขภาพยกเว้นเขต 2 เขตเดียว ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และมีผู้สัมผัสที่เกิดขึ้นในประเทศอยู่บ้าน
โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ติดในประเทศ จะเกี่ยวโยงกับผู้ที่ตรวจพบก่อนหน้า โดยเฉพาะคลัสเตอร์ใหญ่กาฬสินธุ์ มีจำนวนมากกว่า 200 ราย และข้ามจังหวัด เช่น กรณี 4 รายที่ลำพูน ก็มาจากคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงกาฬสินธุ์ ต้องควบคุมให้ได้
ในพื้นที่อื่นๆ จะเห็นว่ามีผู้ติดจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศประปราย ที่ภูเก็ต กระบี่ เป็นพวกที่มีโอกาสสัมผัสกับคนติดโอมิครอน ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ โดยมีจำนวน 19 จังหวัด เป็นการติดในประเทศไทย แต่ก็ยังผูกโยงกับคนที่ติดมาจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม สธ.เผย พบ โอมิครอน ใน 33 จังหวัด รวม 740 ราย ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ