แถลงด่วน พบ โอมิครอน รายแรกของจังหวัด

439
แถลงด่วน พบ โอมิครอน รายแรกของจังหวัด

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ขณะที่สถานการณ์การแพร่กระจายของ CV-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ หลังตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา มีการพบผู้ติดต้องสงสัยจะติดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนเข้ามาในพื้นที่ ล่าสุดวันนี้ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ

พร้อมด้วยนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดแถลงข่าวด่วนที่ห้องศูนย์ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ CV-19 ประจำจังหวัดชัยภูมิ ที่ห้องประชุมชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ว่ายืนยันล่าสุด จ.ชัยภูมิ พบมีผู้ติด CV-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นรายแรกของ จ.ชัยภูมิ แล้ว 1 ราย

ซึ่งเป็นหญิงวัย 32 ปี ทำงานอยู่ในสำนักงานท้องถิ่นอำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งมีผลตรวจพบติดมาตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา และมีความเกี่ยวพันกับพื้นที่มาจากต่างจังหวัดเสี่ยง จ.ชลบุรี และ จ.กาฬสินธุ์

ซึ่งทางจังหวัดได้เร่งดำเนินการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วล่าสุดกว่า 100 ราย ซึ่งมีผลตรวจยืนยันครั้งแรกทั้งหมดยังไม่พบมีผู้ติดรายใหม่เพิ่ม

และในส่วนผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เข้าเกี่ยวข้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดรายนี้ ที่เคยมีไทม์ไลน์เดินทางไปสถานที่ในที่ว่าการอำเภอเมืองชัยภูมิ ในวันที่ 20 ธ.ค.64 รวมประชุมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ วันที่ 23 ธ.ค.64

และเดินทางไปร่วมกับท้องถิ่นอำเภอเมืองชัยภูมิ ไปที่งานสืบสานประเพณีตีคลีไฟ ที่วัดในหมู่บ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ในวันที่ 24 ธ.ค.64 ขอให้ติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อตรวจคัดกรองหา CV-19 เพิ่มเติมเป็นการด่วนจากนี้ไปด้วย

และในส่วนสถานการณ์ผู้ติดรายใหม่ล่าสุดของจังหวัดชัยภูมิ ล่าสุดมีผู้ติดรายใหม่สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 1 ราย มีผู้ติดสะสมสายพันธุ์เดลต้า 12,409 ราย มีผู้ติดรายใหม่เพิ่ม 10 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.เทพสถิต 3 ราย อ.บ้านเขว้า 2 ราย อ.บ้านแท่น 2 ราย อ.แก้งคร้อ 1 ราย อ.เนินสง่า 1 ราย

และที่ อ.บำเหน็จณรงค์ อีก 1 ราย ซึ่งในช่วงเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนในช่วงปีใหม่ 2565 นี้ ทางจังหวัดชัยภูมิ ขอให้ชาวชัยภูมิทุกคนปฏิบัติขั้นตอนตามมาตรการป้องกัน CV-19 อย่างเคร่งครัดในทุกพื้นที่ด้วย

ซึ่งคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงก็ต้องผ่านการตรวจ ATK ทุกรายทุกพื้นที่จะต้องมีการแจ้งผู้นำชุมชน,อสม. เพื่อช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ปัญหาการแพร่กระจายกลับมารุนแรงได้อีกอย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนทำตามมาตรการป้องกัน เพื่อลดการแพร่กระจายของ CV-19