สาวเดินผ่านซุ้มปาโป่งงานวัด แล้วถูกต้อน บังคับเล่นปั่นสามแปด สูญเกือบ 3 แสน

165
ปาโป่งงานวัด

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย สส.เขตสายไหม พร้อมทีมงานสายไหมต้องรอด พาน.ส.สิริลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พร้อมนำเอกสารการโอนเงินเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ปาฏิหาริย์ วัฒนประคัลภ์ รองสว.(สอบสวน) สน.คันนายาว ให้ดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้เล่นการปั่นสามแปด ภายในงานประจำปีของวัดคู้บอน ซึ่งอยู่ติดกับสถานีตำรวจ สน.คันนายาว ทำให้สูญเงินไปเกือบ 3 แสนบาท

น.ส.สิริลักษณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกลับจากทำงานได้แวะเที่ยวงานวัดคู้บอน เมื่อเดินมาถึงบริเวณซุ้มปาลูกโป่ง ก็พบโต๊ะลักษณะมีคนมุงจำนวนมาก เมื่อเดินผ่าน มีกลุ่มคนในนั้นชักชวนให้เข้าไปเล่น ตนเองบอกว่าไม่เล่น เล่นไม่เป็น แต่ก็ถูกกลุ่มคนดังกล่าวจับมือเข้าไปเล่นซึ่งมีลักษณะเป็นการหมุนเหรียญ 2 ด้าน ซึ่งมีตัวเลข 3 ด้านนึงและ ตัวเลข 8 อีกด้านนึง ก่อนจะใช้ฝาครอบ และให้ผู้เล่นทายเลขดังกล่าว

โดยครั้งแรกตนเองเสียเงินไป 6,000 บาท ซึ่งเป็นเงินของคนที่มาเล่นตนคาดว่าน่าจะเป็นหน้าม้า ตนก็พยายามบอกว่าไม่มีเงินสด ไม่ต้องการที่จะเล่น แต่กลุ่มคนดังกล่าวก็บอกโอนได้ พร้อมกับมีกลุ่มการ์ดเป็นผู้ชายรวมกว่า 10 คน มาล้อมหน้าล้อมหลัง ปิดทางไม่ให้ตนเองหนีไปไหน จึงทำให้เกิดความหวาดกลัว จึงยอมโอนเงินให้ จากนั้นพวกกลุ่มดังกล่าวซึ่งคาดว่าเป็นหน้าม้า พยายามพูดจาเชียร์และจับมือตนเองไปเล่นเสี่ยงทายต่ออีกเกือบ 10 ครั้ง ตนเองก็ไม่กล้าหนีและเสียเงินทุกตา

โดยครั้งสุดท้ายเสียเงินไป 1 แสนบาท รวมทั้งหมดเป็นเงินจำนวนเกือบ 3 แสนบาท แบ่งโอนหลายครั้งให้กับบัญชีของมิจฉาชีพ 3 บัญชี ตนเองอยากได้เงินจำนวนดังกล่าวคืน เพราะเป็นเงินเก็บมาทั้งชีวิต และกำลังจะนำไปจ่ายค่าโอนที่ดิน แต่กลับต้องมาถูกหลอกหมดตัว จึงอยากฝากเป็นอุทาหรณ์

เตือนภัยหากใครพบแก๊งลักษณะนี้ ให้เดินเลี่ยงไปเลย อย่าไปยุ่งเกี่ยวหรือไปสนใจกลุ่มนี้ ตนเองจึงขอความช่วยเหลือจากทีมงานสายไหมต้องรอดพร้อมทั้งได้พาไปชี้จุดเกิดเหตุภายในงานประจำปีของวัดคู้บอน ไม่พบโต๊ะพนันดังกล่าวแล้ว รวมถึงซุ้มปาโป่งกำลังพากันเก็บของกลับ

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด ก็ได้ลงพื้นที่ยังพบโต๊ะพนันดังกล่าวอยู่ ซึ่งมีการ์ดนับ 10 คนคอยเฝ้า ห้ามไม่ให้คนที่ผ่านไปมาถ่ายรูปหรือคลิปวิดีโอด้วย ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าเป็นล็อคเสริมบนถนนที่มาเช่าเป็นรายวัน บางวันก็มา บางวันก็ไม่มา เมื่อหลอกเหยื่อได้ตามเป้าแล้ว ก็จะย้ายร้านไปที่งานอื่น

เด็กร้านซุ้มปาลูกโป่งบริเวณดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าของงานโทรศัพท์มาแจ้งให้ซุ้มเล่นเกมทุกร้านเก็บของกลับทันที เหลือไว้เฉพาะโซนร้านอาหารเท่านั้น สร้างความเดือดร้อนให้ร้านค้าต่างๆ เป็นอย่างมาก และไม่เห็นด้วยกับการที่ทางผู้จัดงานนำโต๊ะพนันลักษณะนี่มาตั้งในงานวัด

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ได้กำชับและสั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามตัวผู้จ้ดงาน และกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งรู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว และหากสอบสวนแล้วพบว่ามีการจัดให้เล่นการพนัน ก็จะแจ้งข้อหาลักลอบเล่นการพนัน ส่วนที่ผู้เสียหายระบุว่ามีการบังคับให้เล่น ก็ต้องพิจารณาพยานหลักฐานก่อนว่าจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง

ซึ่งหากเป็นการบังคับลักษณะไม่ให้ไปไหน ก็จะเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนตำรวจท้องที่จะเข้าข่ายปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันหรือไม่นั้น ยังไม่พบว่าเข้าข่ายความผิด เพราะทราบว่าเป็นลักษณะลักลอบเข้ามาเล่นเองและจะเล่นเฉพาะตอนเจ้าหน้าที่ตรวจเสร็จแล้วเท่านั้น

ด้านพ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะเร่งรัดติดตามผู้กระทำความผิดมาสอบสวน หากเข้าข่ายความผิดก็จะดำเนินคดี ทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกตรวจตรางานวัดดังกล่าวทุกวัน และไม่พบการลักลอบเล่นการพนัน จึงคาดกว่าแก๊งดังกล่าวน่าจะฉวยโอกาสที่ตำรวจตรวจตราไม่ทั่วถึง จัดให้มีการเล่นการพนันขึ้น