ตุ๊ยตุ่ย เล่าทั้งน้ำตา สูญเงิน 100 ล้าน แถมเงินเก็บ 50 ล้านก็หมด

41

นับว่าหลายคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สำหรับพิธีกรอารมณ์ดีอย่าง ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด พงศ์สุชาติ ล่าสุดได้ออกมาเผยเรื่องราวชีวิต ในรายการแฉเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา เผยทั้งน้ำตาว่า เหตุเกิดจากการไปเชื่อไปฟังสิ่งๆ หนึ่ง พูดง่ายๆ คล้ายพวกลัทธิ

ลัทธิดังกล่าวนำเอาเรื่องธรรมอันสูงส่งมาใส่หัวจนเชื่อและยอมทำตามทุกอย่างนำมาเป็นแบบแผนเข็มทิศชีวิตตน ใครเตือนใครห้ามก็ไม่ฟัง ไม่คบเพื่อน มีแฟนก็เลิก เพราะรู้สึกว่าทุกคนคือมาร คือคนบาป มาขัดขวางการทำความดีและงานในวงการที่มีก็มองเป็นเรื่องไร้สาระ ส่วนเงินเก็บร้อยล้านก็หมด แถมยังเป็นหนี้ 50 ล้าน

หากมองย้อนกลับไปหลายปีก่อน ก็จะเห็นรูปที่ร่วมเฟรมกับไลฟ์โค้ชท่านหนึ่งอยู่บ่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ หายไป เราก็นึกว่าสิ่งที่เราเคยอยู่ เคยมีความสุข เล่นกับน้อง มาทำงานในวงการบันเทิง ตอนนั้นมันกลายเป็นของที่มันไร้สาระ มันเป็นงานอะไรก็ไม่รู้ เราไม่ควรทำ การทำสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่ควรรับงาน

ไม่ควรมายุ่งกับคนพวกนี้ที่ไร้สาระ มันได้ถูกกรอบความคิด แต่เราก็โง่เองด้วย ไม่มีใครจะมากรอบความคิดเราได้นะ ถ้าเราไม่ได้มีวิบากเก่ากับเขา เมื่อก่อนเราก็ไปไหนแก๊งเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกัน เอิ้กอ๊ากไม่หยุด เพิ่งมารู้ตัวตอนจบแล้ว เพราะคิดไปว่าการรับงานในวงการบันเทิงเป็นเรื่องไร้สาระ มันเปลืองของเวลาของชีวิต

ซึ่งที่คิดแบบนั้น เพราะมันเป็นเรื่องของการเอาตัวเองเข้าไปรับฟังเรื่องบางสิ่งบางอย่าง แล้วเห็นเป็นชอบ เห็นเป็นเหมาะเป็นสม เห็นเป็นคุณธรรมอันแสนจะสูงส่ง คืองานในวงการบันเทิง จริงๆ แล้วมันสร้างความสุขให้กับคน การถ่ายละคร การทำละคร มันเอาชีวิตคนมาถอดเป็นบทเรียน คนดูจะได้ไม่ต้องมาประสบปัญหาเหมือนกับละครนั้น

ถ้าดูให้เป็นมันจรรโลงไง เพื่อนฝูงที่หัวเราะเอิ้กอ้ากกันไปวันๆ มันเยียวยาจิตใจเรา บนโลกที่เราอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย เกาะกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน มันเป็นความบันเทิง มันไร้สาระตรงไหน โดนชักจูงจนหลงเตลิด มีแฟนก็ต้องเลิก เพราะขัดขวางการทำคุณงามความดี มีก็ต้องเลิก (หัวเราะ) คือมันขัดขวางการทำคุณงามความดี ขัดขวางเราที่จะรับใช้คุณงามความดี

อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ในคำสั่งสอนของแต่ละสำนัก หรืออะไรต่างๆ นานา คือดีหมดนะ แต่มันอยู่ที่สติปัญญาของเราด้วย เพราะมีบ้างที่เซ็ตอัปตัวเอง เรียนแบบโคลนนิ่งกับสิ่งที่เป็นของจริงของแท้ แล้วเขาก็ชักจูงเราไป ภายในภาพที่เหมือนเป็นของจริงของแท้ ถ้าเราไม่มีสติปัญญาทัน เราก็จะหลงเตลิดไป เหมือนอย่างที่อาเคยเป็น

และเสียเวลาในชีวิตเยอะมาก ประมาณ 6-7 ปี ไม่ใช่ไม่มีคนเตือน แต่ใครเตือนก็ผีบ้าตาขวางใส่ คือตาแข็ง ตาขวางเลย อาไก่ (สมพล ปิยะพงศ์สิริ) เคยพยายามจะพูด ก็ไปตาแข็งใส่เขา (เสียงสั่น) จนอาไก่เขาเสียใจ แล้วก็ห่างกันไปเลย ไม่ได้อยากโกรธเขา แต่รู้สึกว่าความห่วงใยมันทิ่มแทง มันขวางเรา

หรือถ้ามดดำเตือนเราก็จะรู้สึกว่ามดดำคือพวกมาร พวกคนบาป พวกที่จะชักจูงเราไปในทางที่ไม่ดี เราอุตส่าห์มาดีแล้ว แล้วเหยียดคนอื่นโดยไม่รู้ตัว แย่มากตัวเองในตอนนั้น

หนักจนไม่เหลือใครในชีวิต ไม่เหลือ ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดเรานะ โชคดีที่เป็นแบบไหนคนก็ยังรัก แต่ถ้าเตือนแล้วทำตาแข็งใส่เขา เขาก็เลือกที่จะถอย เขาก็บอกว่าวันหนึ่งถ้ามีสติ ถ้ารู้ตัว แล้วบาดเจ็บมา พี่จะกอดเอาไว้ พี่จะรับเสมอ (เสียงสั่น) ทั้งๆ ที่เคยทำตัวแบบนั้น

กดชมคลิปที่นี้

ขอบคุณ ภาพจาก รายการ แฉ ช่อง วันบันเทิง oneบันเทิง