หนุ่มใหญ่เตือน

274
หนุ่มใหญ่เตือน

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้เลย สำหรับการกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม แต่พบว่าได้แบงค์ปลอมติดมาด้วย โดยวันนี้ (15 ก.ย. 64) นายวรพล บวรลัทธพล อายุ 55 ปี ชาว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ได้เข้ามาพบผู้สื่อข่าวเพื่อแจ้งเตือนภัยประชาชน หลังจากไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาปักธงชัย แล้วพบว่ามีธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ของปลอม ติดมาด้วย

นายวรพล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 64 เวลา 08.54 น. ที่ผ่านมา ตนเองได้ไปกดเงินในตู้เอทีเอ็มธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาปักธงชัย โดยที่จุดนั้นมีตู้เอทีเอ็มอยู่ 2 ตู้ ตนไปกดที่ตู้ด้านซ้ายมือ

ซึ่งกดออกมาเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 4 ฉบับ รวมเป็นเงิน จำนวน 4,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคาร จึงได้นำเงินที่กดมาไปใช้จ่ายเติมน้ำมัน และซื้อของใช้ต่างๆ

กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 64 ตนเองได้ไปซื้อกาแฟในร้านแห่งหนึ่ง โดยจ่ายเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ซึ่งเหลือเป็นฉบับสุดท้ายจาก 4 ฉบับ ที่กดมาจากตู้เอทีเอ็ม ให้พนักงานขาย แต่น้องพนักงานขายทักว่าขอคืนธนบัตรดังกล่าว เพราะเป็นของปลอม ทำให้ตนเองตกใจมาก

เนื่องจากธนบัตรดังกล่าวกดออกมาจากตู้เอทีเอ็มของธนาคาร จะเป็นของปลอมได้อย่างไร จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียด และก็พบว่ามีจุดผิดปกติอย่างจุด เช่น บริเวณแถบลายสีปีกแมลงทับ คล้ายนำสติ๊กเกอร์มาแปะไว้ สามารถใช้เล็บมือแกะออกได้ และจะอยู่ต่ำกว่าระดับตัวเลข 1,000

นอกจากนี้ขนาดของธนบัตรปลอม จะสั้นกว่าของจริงประมาณ 2 มิลลิเมตร เป็นต้น ซึ่งหากไม่สังเกตให้ละเอียดจริงๆ จะมองไม่ออกเลยว่าฉบับไหนของจริง หรือของปลอม ทำให้ตนเองรู้สึกตกใจมาก และไม่รู้ว่าธนบัตรอีก 3 ฉบับที่ใช้จ่ายไปแล้วนั้นจะเป็นของปลอมด้วยหรือไม่

ดังนั้นตนเองจึงได้นำไปให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารดังกล่าว สาขาปักธงชัยตรวจสอบ ซึ่งต้องอธิบายให้เจ้าหน้าที่ดูจุดผิดปกติก่อน จึงจะเชื่อว่าเป็นของปลอม แต่ที่น่าแปลกใจคือ ธนบัตรของปลอมนี้ เข้ามาอยู่ในระบบของธนาคารได้อย่างไร

โดยที่ระบบต่างๆ ไม่สามารถตรวจสอบพบได้ จนทำให้หลุดไปถึงตู้เอทีเอ็ม ที่สามารถให้ประชาชนกดไปใช้จ่ายได้ตามปกติ เพราะที่ผ่านมาการพบธนบัตรปลอม มักจะพบได้จากการแลกเปลี่ยนกับบุคคลทั่วไป ซึ่งอาจจะเป็นมิจฉาชีพนำมาหลอกแลกเปลี่ยนกับชาวบ้าน

แต่ธนบัตรที่ตนนำมาร้องเรียนครั้งนี้ เข้าไปอยู่ในระบบของธนาคารเรียบร้อยแล้ว จึงน่าเป็นห่วงว่าจะมีสักกี่ใบที่ถูกกดจากตู้เอทีเอ็มเดียวกันนี้ไปใช้จ่ายซื้อของแล้ว ตนเองจึงอยากให้ธนาคารช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

ทั้งนี้ตนได้นำธนบัตรฉบับนี้ ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัย แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า ต้องส่งไปตรวจสอบใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน จึงจะรู้ผล โดยส่วนตัวเห็นว่าการตรวจสอบนานเกินไป กว่าจะตรวจสอบรู้ผลก็คงจะมีธนบัตรปลอมออกไปสู่สาธารณชนจำนวนมากแล้ว

จึงได้นำเรื่องนี้มาร้องเรียนสื่อมวลชนให้ช่วยกระจายข่าวเตือนประชาชน ให้สังเกตจุดผิดปกติเหล่านี้ไว้ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดข้อร้องเรียน หรือถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหานำธนบัตรปลอมไปใช้ จนต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้แบงค์ปลอมกระจายหนัก โปรดสังเกตกันด้วยนะคะ