เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่า พ.ต.ท. อภิชน ขันกา สว.กก.๔ บก.ป นำทีมจับกุม น.ส.ชนกนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดี นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน และฉ้อโกง ได้ที่โรงแรมในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี
สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายน ผู้เสียหายได้รู้จักกับ น.ส.ชนกนันท์ ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดย น.ส.ชนกนันท์ ใช้รูปของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ตนเอง อ้างตนว่าชื่อ น.ส.นัดดา ระหว่างที่ติดต่อพูดคุยกันผู้เสียหายได้โอนเงินตามที่ น.ส.ชนกนันท์ ร้องขอ อ้างว่าแม่เดือดร้อนต้องการใช้เงิน
ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารจำนวนหลายครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ 210,700 บาท ต่อมา น.ส.ชนกนันท์ ได้ทำทีพูดคุยตกลงหมั้นหมายกัน ผู้เสียหายจึงยกเงินจำนวนดังกล่าวให้เป็นค่าสินสอดทองหมั้น
จากนั้นก็ได้ติดต่อพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊กเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ผู้เสียหายได้ตรวจพบว่าระหว่างวันที่ 19-30 มิถุนายน ยอดเงินในบัญชีธนาคารจำนวน 2,641,000 บาท ได้ถูกโอนผ่านไปยังบัญชีผู้อื่น จำนวน 10 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 2,500,000 บาท จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนติดตามหาตัวคนร้าย
โดยในระหว่างนั้นเอง น.ส.ชนกนันท์ ได้ติดต่อมายังยอมรับว่าตนเป็นคนโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปเพื่อซื้อที่ดินกับต้นไม้ พร้อมขอร้องไม่ให้ดำเนินคดี โดยอ้างว่าต่อไปก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ในส่วนของเงินที่เอาไปนั้นจะรีบนำมาคืนให้โดยเร็ว ผู้เสียหายจึงไม่ดำเนินคดีตามคำขอ
ต่อมา น.ส.ชนกนันท์ ก็ได้ออกอุบายหลอกลวงผู้เสียหายอีกครั้ง โดยอ้างว่าอยากเปิดโรงงานและจดทะเบียนการค้าเพื่อทำธุรกิจ จึงขอให้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ จึงได้มีการนำที่ดิน 9 ไร่ ไปประกาศขาย
ซึ่งต่อมาเดือนตุลาคม น.ส.ชนกนันท์ อ้างว่าสามารถขายที่ดินแปลงดังกล่าวได้แล้วในราคา 16,700,000 บาท และได้นัดหมายให้ผู้เสียหายไปทำสัญญาโอนขายที่ดินที่ จ.บุรีรัมย์
โดยในวันทำสัญญาโอนขายที่ดิน น.ส.ชนกนันท์ อ้างว่า ผู้ซื้อได้โอนเงินค่าซื้อขายที่ดินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว ผู้เสียหายจึงยอมลงชื่อในสัญญาโอนขายที่ดิน
แต่ภายหลังจากพบว่า น.ส.ชนกนันท์ มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จึงทำการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคาร แต่กลับพบว่าไม่มีเงินค่าซื้อขายที่ดินโอนเข้าบัญชีธนาคารแต่อย่างใด
จึงได้สอบถามไปยังผู้ซื้อที่ดิน จนทราบว่าผู้ต้องหาได้เสนอขายที่ดินให้กับผู้ซื้อในราคาเพียง 7,500,000 บาท และในวันทำสัญญาผู้ซื้อก็ยืนยันว่าได้มอบเงินสดให้กับผู้ต้องหาแล้ว โดยไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ผู้เสียหายจึงเชื่อตนเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้เดินทางมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จึงได้นำกำลังออกติดตามจับกุมตัวได้
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา