เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 19 ธ.ค.64 ที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี นายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าฯนนทบุรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มีผู้แสวงบุญเดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย
ซึ่งเป็นคนในจ.นนทบุรีที่เดินทางไปร่วมแสวงบุญ มีทั้งหมด 21 ราย เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.64 เมื่อเดินทางถึงสนามบินที่ประเทศไทย ได้ตรวจคัดกรองก่อนเข้าประเทศ
พบมีผู้ติด CV-19 จำนวน 14 ราย แยกออกเป็น 2 ส่วนคือ ติดโอไมครอน 6 ราย และติดเดลต้า 8 ราย ส่วนที่เหลืออีก 7 รายไม่พบ จึงถูกส่งตัวกลับมาที่ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด
โดยทั้ง 7 รายที่ถูกส่งตัวกลับมาที่จ.นนทบุรี ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ตนและทีมสอบสวน สสจ.นนทบุรี ลงพื้นที่สอบสวนในทันทีในวันที่ 16 ธ.ค.64 ทำการตรวจคัดกรอง APK ซ้ำ พบมีผู้ติดเพิ่มอีก 2 ราย
ซึ่งยังไม่ทราบสายพันธุที่แน่ชัด จึงทำการส่งตัวเข้ารักษาที่โฮสเทลในพื้นที่และรอผลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ส่วนอีก 5 รายซึ่งเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงได้ส่งกับตัวที่วทก.ไทรน้อย จำนวน 14 วัน
นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสี่ยงสูงอีก 2 รายใกล้ชิดกับผู้ที่ 2 ราย ถูกนำตัวส่งกับตัวที่วทก.ไทรน้อย รวมแล้วมีผู้ที่มีความเสี่ยงสูงถูกกักตัวในขณะนี้รวม 7 ราย
นายอภิชัย กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์การแพร่กระจายของโอไมครอน ทางจังหวัดนนทบุรีมีการเฝ้าระวังมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อเริ่มพบว่ามีการกระจายในพื้นที่ จึงได้มีการประชุม เตรียมมาตราการรับมือการแพร่กระจายในทันที
ด้วยการกักตัวผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่กระจายของโอไมครอน ซึ่งต้องทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วันในการตรวจ ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายให้กับคนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี
อย่างไรก็ตาม นนทบุรีเจอโอไมครอน 6 ราย เสี่ยงสูงอีกเพียบ แถมยังพบติด CV-19 สายพันธุ์เดลตาด้วย พบประวัติกลับจากแสวงบุญซาอุฯ
