สมปอง งานเข้าหลังเจ๊ติ๋มแฉ กว้านซื้อที่

402
สมปอง งานเข้าหลังเจ๊ติ๋มแฉ กว้านซื้อที่

กรณีนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ “ติ๋ม ทีวีพูล” ผู้ก่อตั้งนิตยสารทีวีพูล ออกมาแถลงข่าวแตกหักกับทิดสมปอง หลังประกาศถอนตัวจากรายการที่ทีวีพูลกรุ๊ปเป็นผู้ผลิต 3 รายการ และขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน ทั้ง ๆ ที่ยังติดสัญญา 2 ปี และยังแฉอีกว่าทิดสมปอง มีหนี้สิน 10.9 ล้านบาท จากการไล่ซื้อที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 300 ไร่ เพื่อปลูกยางพารา ซึ่งสร้างความแปลกใจในกับคนในสังคมเป็นอย่างยิ่ง ว่าที่ดินดังกล่าวปล่อยให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้อย่างไร

ล่าสุดวันที่ 6 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่บ้านไปบ้านของนายสมปอง นครไธสง หรือ ทิดสมปอง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 14 บ้านมอตาเจ็ก ตำบล ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้เรือนไทยสูง 2 ชั้น หันหน้าออกทางทิศตะวันออก เเละมีสิ่งปลูกสร้างภายในอาณาบริเวณอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ บริเวณรั้วหน้าบ้านยังมีช่างทำบ้าน กำลังก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างชั้นเดียวลักษณะคล้ายร้านค้าด้วย

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมข่าวได้สอบถาม คุณป้าแม่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ดูแลเเม่ของนายสมปอง เปิดเผยว่า ขณะนี้เเม่ตาล แม่ของนายสมปอง นอนป่วยอยู่ภายในบ้าน เเละนางตุ้ย พี่สาวของนายสมปอง ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปภายในบ้าน เพราะคุณเเม่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกัน CV19 ส่วนนางตุ้ย ขณะนี้ออกไปทำธุระข้างนอก คาดว่าจะกลับเข้ามาบ้านในช่วงเวลา 13.00 น.

ทีมข่าวลองเดินสำรวจบริเวณนอกรอบรั้วของบ้านนายสมปอง พบว่ารั้วหน้าบ้าน หากเดินจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือ รั้วจะมีความยาวประมาณ 120 เมตร เเละเมื่อหากเดินจากทิศเหนือไปยังทิศตะวันตก พื้นที่บ้านจะมีความกว้างอีกประมาณ 100 เมตร นอกจากนี้ ยังมีสวนหย่อมที่ดินอีกผืน ที่มีขนาด ประมาณ 50×50 เมตร จากการสังเกตบริเวณด้านนอกรั้ว พบว่าบ้านนายสมปอง มีเนื้อที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร มีบ่อน้ำภายในบ้าน 2 บ่อ เเละมีสวนกล้วยอีกด้วย

นายประยูร (นามสมมติ) อายุ 67 ปี ให้ข้อมูลว่า บ้านของตนมีที่ดินทั้งหมด 8 ไร่ ตอนที่ทิดสมปองสึกออกมาเเล้ว เคยติดต่อจะมาขอซื้อที่ดินทั้งหมด 8 ไร่ ในราคา 2 ล้านบาท เเต่ตนไม่ขาย ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทิดสมปองจะซื้อไปทำอะไร รู้เเค่ว่าเป็นคนที่วิ่งเต้นให้หลวงเข้ามาขุดสระ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า สระซอย 4 มีความกว้างประมาณ 100 เมตร เเละยาวประมาณ 200 เมตร ไม่ทราบความลึก สระนี้ขุดมาได้นานประมาณ 1 ปีเเล้ว เพื่อใช้น้ำให้เป็นประโยชน์กับชาวบ้าน เเละจะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว คล้ายวังน้ำเขียว ส่วนที่ดินอีกผืนหนึ่งที่อยู่ถัดมาจากบ้านทิดสมปอง เเละอยู่ติดกับบ้านของตน คือ ที่ดินที่ทิดสมปองเคยซื้อต่อมาจากตำรวจท่านหนึ่ง โดยยังไม่ได้มีการปลูกสิ่งก่อสร้างอะไร

ทีมข่าวได้รับข้อมูลมาว่า บริเวณตรงข้ามบ้านของทิดสมปอง มีสวนทุเรียน ทีมข่าวจึงลองเดินเข้าไปสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียง โดยนางมะขาม (นามสมมติ) อายุ 58 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 14 บ้านมอตาเจ็ก เปิดเผยว่า ตนอยู่ที่หมู่บ้านนี้มา 35 ปีเเล้ว ที่ดินข้างบ้านที่เป็นสวนทุเรียน ตนไม่ทราบว่าเจ้าของเดิมคนเเรกคือใคร ทราบเเค่ว่าเนื้อที่ประมาณ 4-5 ไร่ จนตกมาอยู่ในมือของคุณตาน้อย ชาวอำเภอบ้านฝาง จากนั้นก็ขายให้ทิดสมปอง ตอนนั้นยังเป็นพระอยู่ เมื่อประมาณ 10 กว่าที่แล้ว ตนก็ไม่ทราบว่าเขาซื้อขายกันราคาเท่าไร เเต่คาดว่าน่าจะไม่เเพงมาก

หลังจากซื้อเเล้วครอบครัวนครไธสง ก็ได้ให้คนสวนเป็นผู้หญิที่อยู่หมู่ 4 เข้ามาช่วยดูแลสวน โดยตอนเเรกมีการปลูกอ้อยเเละไม้ไผ่ จากนั้นก็มาปลูกทุเรียน ตอนนี้ต้นทุเรียนอายุประมาณ 3-4 ปีเเล้ว ไม่เเน่ใจว่าพันธุ์ใด โดยตั้งเเต่ทิดสมปองสึกก็ยังไม่เคยเห็นว่าจะกลับมาดูแลสวน รวมถึงสวนทุเรียนแห่งที่ 2 ที่เพิ่งซื้อใหม่อีกด้วย เป็นที่ดินประมาณ 4 ไร่ ที่ดินผืนนี้นายประยูร ขายให้กับทิดสมปอง เมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน ในราคาประมาณ 580,000 บาท ตอนเเรกทิดสมปองบอกว่าจะทำสวนสุขภาพให้คนในหมู่บ้าน เเต่หลังจากนั้นก็นำทุเรียนมาปลูก ตนก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าที่ดินเเถวนี้ เป็นของ ส.ป.ก.ทั้งหมด เดิมมีไว้เพื่ออยู่อาศัย ล็อกละ 2 ไร่ต่อครอบครัว ส่วนที่ทำกินก็จะครอบครัวละประมาณ 13 ไร่ นี่คือสิ่งที่หลวงจัดให้ เเต่หากชาวบ้านจะซื้อจะขายก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่างเช่นที่ดินของตน ก็ซื้อต่อเขามาอีกทีหนึ่งได้มาเเค่ 1 ไร่เท่านั้น ทั้งนี้ ทิดสมปอง ยังเคยมาถามตนอีกด้วยว่า “ถ้าจะขายที่ตรงนี้ ให้บอกด้วย จะซื้อ” ตนจึงตอบกลับไปว่า ไม่ขาย ขายเเล้วจะไปอยู่ตรงไหน นางมะขาม กล่าวอีกว่า ตอนเเรกครอบครัวของทิดสมปอง อยู่เเถวกรมป่าไม้ มีกันประมาณ 7-8 คน จากนั้น ครอบครัวก็ย้ายมาซื้อที่ดินบ้านปัจจุบันจากนายเสริม ชาวอำเภอแก้งค้อ ขณะนี้นายเสริมเสียชีวิตเเล้ว ตนก็ไม่ทราบว่าซื้อในนามใคร เเละราคาเท่าไร ส่วนนิสัยใจคอของเเม่เเละพี่สาวของทิดสมปอง ก็เป็นคนปกติธรรมดาทั่วไป เเต่ทิดสมปอง ชอบกว้านซื้อที่ดินจริง ๆ

นายเชาวลิต ศิริรวง อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 บ้านมอตาเจ็ก เปิดเผยว่า ที่ดินในหมู่บ้านของตนเป็นของรัฐที่จัดสรรให้ ประมาณ 30-40 ปีเเล้ว เพื่อให้ผู้ที่อพยพมาจากเขื่อนจุฬาภรณ์ เเละคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยครอบครัวละ 2 ไร่ เเละเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านบุกรุกป่าเขตต้นน้ำของเขื่อนจุฬาภรณ์ จนเกิดเป็นหมู่บ้านมอตาเจ็กขึ้นมา

โดยที่ดินตรงนี้ไม่มีโฉนด ไม่มีเอกสารกรรมสิทธิ์ อย่างที่ดิน ส.ป.ก. ก็มีไม่กี่แปลงที่ส.ป.ก.จัดสรรให้ ซึ่งยังมีส่วนคาบเกี่ยวกับที่ดินของกรมป่าไม้ด้วย พูดง่าย ๆ คือ เป็นที่ดิน ภบท.5 ที่ดินป่าสงวน หากชาวบ้านมาอยู่เเล้วไม่มีที่ทำกิน ก็ต้องบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อปลูกผักทำไร่ทำสวน เเต่ ภบท.5 เรื่องการเสียภาษี ก็ถูกยกเลิกมานานเเล้ว

ส่วนที่ดินส.ป.ก. ตามหลักเเล้ว ไม่สามารถซื้อขายได้ ที่ดินส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนี้ จึงเป็น ภบท.5 ที่ดิน ส.ป.ก.จะไม่ค่อยมี ช่วงที่ตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน ที่ดิน ส.ป.ก.มีอยู่ไม่ถึง 20 แปลง ส่วนที่ดินที่บ้านพระมหาสมปอง ตรงบ้านเรือนไทย เป็นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เป็นที่จัดสรรที่รัฐให้ครัวเรือนละ 2 ไร่ ซึ่งที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์เหล่านี้ หากชาวบ้านอยากจะซื้อขายเเลกเปลี่ยน ก็จะทำสัญญาใจกันเเละจะมีการเขียนเอกสารซื้อขายที่ดิน ที่ลงลายลักษณ์อักษรไว้ด้วย เเต่จะไม่มีเอกสารที่ดินหรือโฉนดบ้านเลย เพราะอยู่ในเขตป่า โดยเอกสารซื้อขายที่ดินนี้ จะสามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป ผู้ซื้อเเละผู้ขายก็มีเอกสารนี้กันคนละใบ ส่วนใหญ่จะเก็บไว้อย่างดีไม่ให้หาย ประเด็นเรื่องที่อดีตพระมหาสมปอง เคยกว้านซื้อที่ดินที่เป็นที่ ส.ป.ก. ตรงจุดนี้ตนก็ไม่ทราบข่าวเช่นกัน ตนยืนยันว่าในหมู่บ้านของตนไม่เคยมีการซื้อขายที่ดินส.ป.ก. นอกจากนี้ ตนไม่ค่อยสนิทสนมกับอดีตพระมหาสมปอง

เเต่ตนเคยมีโอกาสเห็นอดีตพระมหาสมปองในช่วงที่เคยมาจัดกิจกรรมเเจกทุนการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ในหมู่บ้านทุกปี คอยสนับสนุนหรืออย่างเช่นคนในหมู่บ้านช่วยกันตั้งกองผ้าป่า เพื่อนำเงินมาช่วยบูรณะโรงเรียน อดีตพระมหาสมปองก็คอยช่วยสนับสนุนเรื่องการศึกษา เเละกีฬาให้เยาวชนในหมู่บ้านเสมอมา ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 84 หมู่ 3 บ้านโนนจำปา ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังผวัดชัยภูมิ เเละได้พบกับ นางวรัญญา ประยูรชาญ อายุ 60 ปี เจ้าของที่ดินคนเเรก ของสวนน้ำโนนจำปา

นางวรัญญา เปิดเผยว่า ที่ดินตรงสวนน้ำโนนจำปานั้น ตนเคยได้รับมาจากพ่อ ซึ่งเป็นที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 6 ไร่ 3 งาน ซึ่งเมื่อประมาณ 30 ปีที่เเล้ว ตนต้องตัดสินใจขายที่ดิน เนื่องจากไม่มีเงินมาใช้หนี้ เเละที่ดินตรงนั้นก็ไม่สวย ทำเกษตรก็ไม่ได้ ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ตนจึงตัดสินใจขายที่ทั้งหมด 6 ไร่ 3 งานให้กับเพื่อน เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 360,000 บาท เป็นการซื้อขายกันปากเปล่า ไม่มีเอกสารกรรมสิทธิ์ที่ดินใด ๆ กระทั่งเขาขายที่ดินดังกล่าวต่อให้กับอดีตพระมหาสมปอง ถ้าตนจำไม่ผิดราคาประมาณ 1.8 ล้านบาท หลังจากนั้นเมื่อประมาณ 1 ปีที่เเล้ว ทิดสมปองก็ขายที่ดินต่อให้กับคนอื่น ที่อยู่ในอำเภอคอนสาร อีกทอดหนึ่ง ราคาก็น่าจะประมาณ 1.8 ล้านบาท เเต่เรื่องนี้ตนก็ไม่มั่นใจ เพราะไม่ค่อยจะได้ไปสุงสิงด้วย ไม่ได้สนใจ ตนเป็นเเค่ชาวบ้านเท่านั้น ใครจะซื้อจะขายที่ดินก็ไม่เกี่ยวกับตนเเล้ว เพราะที่ดินตรงนั้นตนขายไปตั้งนานเเล้ว

ขณะที่ ทิดสมปอง ก็ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก สมปอง นครไธสง ระบุข้อความว่า เที๊ยวทางบ่สุดเส้น อย่าถอยหลังให่เขาเหยียบ

อันนี้เป็นแค่คำแนะนำคร่าวๆจากประเด็นร้อนที่มีในสังคมจากข่าวนะครับ ส่วนตื้นลึกหนาบาง ต้องมาดูเอกสารกันอีกทีครับ ว่ามีที่ดินจำนวนนี้จริงไหม สัญญาจ้างเป็นอย่างไร ยังไงขอให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นด้วยความระมัดระวังเพราะเสี่ยงต่อการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาได้ และขอให้ทิดปองกับเจ๊ติ๋ม เคลียร์กันได้ด้วยดีนะครับ

ขอบคุณ ข่าวและภาพข่าวอัมรินทร์ทีวี